จับตาเทรนด์ Organic Beauty สวยใส่ใจโลก

ปัจจุบันเทรนด์ความงามและสุขภาพ เปลี่ยนไปเป็นวิถีแห่งธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งสอดรับกับเทรนด์โลกที่ลดการใช้สารเคมี การสรรหาวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ มีกรรมวิธีการปลูกที่ปราศจากสารเคมีอันตราย เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นี่จึงเป็นที่มาของเทรนด์ Beauty Organic ที่ไม่ใช่แค่เพิ่มความสวยงามแต่ยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่าเป็นยุคแห่งความยั่งยืน นอกจากบิวตี้เทรนด์ที่ใส่ใจกับวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับโลก หนุ่มสาวยุคนี้ยังให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถรีไซเคิลได้ หรือมาจากวัสดุรีไซเคิล

ผลการวิจัยใหม่ของ Orbis สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ฯ เผยการคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2562-2566 ตลาดสินค้าความงามทั่วโลกจะพุ่งทะลุ 28 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้น 7.14% และตลาดในจีนเติบโตถึง 2 เท่าตัว ซึ่งเทรนด์ ‘ความงามแบบธรรมชาติ’ เป็นเทรนด์ที่มาแรงที่สุด ปัจจุบันมีสินค้าหลายประเภท ทั้งสินค้าอาหาร เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงเครื่องสําอางออร์แกนิก ที่หันมาใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติและปลอดภัยต่อผู้บริโภค รวมถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ง่ายหรือรีไซเคิลได้ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Organic Beauty คืออะไร?

Organic Beauty คือเทรนด์ความงามที่นอกจากจะช่วยส่งเสริมความงามและทำให้ผิวดีขึ้นอย่างยั่งยืน ก็ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หลายคนคงสงสัยว่าสกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่เป็น Organic นั้นคืออะไร ต่างจากเครื่องสำอางแบบ Natural อย่างไร คำตอบคือเครื่องสำอางออร์แกนิก ไม่มีสารปรุงแต่งหรือสารเคมี หากมีก็ในปริมาณที่ไม่เกิน 10% ส่วนวัตถุดิบและส่วนผสมที่ใช้ในเครื่องสำอาง กระบวนการผลิตหรือเพาะปลูกต้องมาจากผลผลิตเกษตรอินทรีย์ กรรมวิธีในการปลูกพืชที่ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง ต้องปลอดสารเคมีตั้งแต่แหล่งเพาะปลูก, วิธีการเพาะปลูก, การเก็บเกี่ยว, การบรรจุหีบห่อ, การขนส่ง, การแปรรูปและการนำไปใช้ และที่สำคัญต้องได้รับการรับรองในการเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ส่วน Natural Skincare นั้นใช้แค่ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ เราสามารถตรวจสอบได้ว่าผลิตภัณฑ์ใดเป็นออร์แกนิก โดยสังเกตสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ECOCERT ซึ่งเป็นสัญลักษณ์จากประเทศฝรั่งเศส ที่เป็นการออกใบรับรองผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรือสปาออร์แกนิกที่ผ่านมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งส่วนผสมในสกินแคร์ที่มีมาตรฐาน ECOCERT จะต้องมีถิ่นกำเนิดจากธรรมชาติไม่น้อยกว่า 95% และมาจากฟาร์มออร์แกนิกเท่านั้น แปลงเพาะปลูกจะต้องไม่ผ่านการปลูกพืชโดยใช้ปุ๋ยเคมีเป็นเวลา 3 ปีขึ้นไป นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ต้องไม่สร้างมลพิษอีกด้วย

นอกจากเครื่องสำอางออร์แกนิกจะช่วยบำรุงผิวให้สุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ยังลดการแพ้จากสารเคมีเนื่องจากเครื่องสำอางประเภทนี้ไม่มีสารเคมีอันตราย เช่น Parabens (สารกันเสีย), SLS (สารลดแรงตึงผิว) และ Mineral Oil (สารที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม) หากสะสมในผิวมากๆ อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ ซึ่งแนวทางการรักษ์โลกของออร์แกนิกก็ได้ตรงกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ โดยมินเทล รีพอร์ทส์ ประเทศไทย รายงานว่าคน Gen Z ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและประโยชน์ต่อสังคม และยังคาดหวังที่จะเห็นคุณค่าของตนเองสะท้อนออกมาจากแบรนด์ที่เลือกซื้อ โดยกว่า 76% ใช้ความพยายามมากกว่าเดิมในการรักษาสิ่งแวดล้อม และประมาณ 25% คิดว่าการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนนั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่า นี่สะท้อนว่าคนยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่ใช่เลือกผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมความสวยงามเพียงอย่างเดียว

ปัจจุบัน Organic Skincare มีมากมายหลายแบรนด์ เป็นแบรนด์ใหม่ๆ ที่เป็นสายรักษ์โลกก็เพียบ เช่น

True Botanicals แบรนด์สกินแคร์จากซานฟรานซิสโกที่มีความเป็น Sustainable product ใช้ส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิก ไม่มีสารเคมีอันตรายเลย จึงใช้ได้กับผิวทุกประเภทแม้ผิวเป็นสิวแพ้งานหรือผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งแบรนด์นี้ได้รับรางวัล Best of beauty จากนิตยสารชื่อดังด้วย
100% PURE มีความเพียวบริสุทธิ์สมชื่อเพราะเป็นออร์แกนิกสกินแคร์ที่ได้รับการรับรอง USDA certified เป็นมาตรฐานออร์แกนิกของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความเป็นมิตรกับผิว ไม่ทำร้ายโลก ซึ่งแบรนด์นี้ช่วยลด Carbon footprint 100% จากบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล และแพ็กเกจที่นำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้ด้วย
Weleda สกินแคร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับการรับของออร์แกนิก ไม่มีสารพาราเบน สารสังเคราะห์ น้ำหอม หรือสารเคมีอันตรายใดๆ

และสำหรับผู้ที่สนใจเปิดตัวแบรนด์ความงามของตนเองแต่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ลองไปเดินดูหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ที่งาน COSMEX 2023 ที่จัดร่วมกับงาน in-cosmetics™ asia 2023 สถานที่พบปะสำหรับเพื่อนร่วมงานในอุตสาหกรรมความงามและกูรูด้านความงาม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแบ่งปันแนวทางการทำธุรกิจ ที่นี่คุณสามารถรวบรวมความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เนื่องจากทุกแง่มุมของอุตสาหกรรมความงามจะถูกนำเสนอ ตั้งแต่ส่วนผสมยอดนิยมประจำปีไปจนถึงขั้นตอนการผลิตขั้นสูงและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าใจภาพรวมของอุตสาหกรรม ค้นหาและเปรียบเทียบข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่คุณสนใจ และใช้ประโยชน์จากคำแนะนำและแนวโน้มทางธุรกิจ ห้ามพลาดงาน COSMEX 2023 ระหว่างวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2566 ณ ไบเทค บางนา

Reference

Beauty Trend 2023

https://www.tnpoem.com/content/6253/beauty-trend-2023

Best Organic Skin Care 2023: 15 Natural Skincare Products We Recommend

https://www.ecofriendlyhabits.com/natural-organic-skin-care-products/

Gen Z ในไทย 36% นิยมซื้อผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ผลวิจัย มินเทลเผย

https://www.prachachat.net/d-life/news

‘Organic Beauty’ ความสวยแบบฉบับสาวกรีนรักษ์โลก

https://www.naturalandorganic.com/health-beauty/organic-beauty/